

สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอภูเวียง 

อำเภอภูเวียง เป็นอำเภอเก่าแก่อำเภอหนึ่งของจังหวัดขอนแก่น และอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดขอนแก่น ประชาชนในสมัยนั้นจึงเรียกอำเภอภูเวียงว่า “หัวเมืองเอกฝ่ายตะวันตก” และหัวเมืองเอกของจังหวัดขอนแก่นนี้ ต่อมาได้แยกแขนงออกเป็นอำเภอชุมแพ อำเภอหนองเรือ อำเภอสีชมพู กิ่งอำเภอภูผาม่าน และเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๗ นี้ก็ได้แยกไปเป็น กิ่งอำเภอหนองนาคำ ประวัติอำเภอภูเวียงอาจแยกได้เป็น ๓ ตอน ดังนี้
• สมัยก่อนประวัติศาสตร์
• สมัยประวัติศาสตร์
• สมัยปัจจุบัน
.
สมัยก่อนประวัติศาสตร์
มีหลักฐานปรากฏให้เห็น ได้แก่การพบซากกระดูกและรอยเท้าไดโนเสาร์และรอยเท้าไดโนเสาร์ชนิดกินพืชและสัตว์ อายุประมาณ ๑๕๐ ล้านปี นอกจากนี้ยังมีหลักฐานอื่น ๆ อีก ได้แก่ ถ้ำฝ่ามือแดง ที่บ้านหินร่อง ซากเมืองโบราณที่บ้านนาดี ตำบลกุดธาตุ (ขณะนี้อยู่ในเขตการปกครองของ กิ่ง อ.หนองนาคำ) เป็นต้น นอกจากการค้นพบหลักฐานต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว ยังมีสัตว์โบราณอื่นอีก ได้แก่ เต่าและหอยอายุล้านปี ซึ่งแสดงว่ามีมนุษย์ในสมัยยุคหินพากันมาตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่ก่อนแล้ว
.
สมัยประวัติศาสตร์
มีการบันทึกเรื่องราวของเมืองภูเวียงไว้ในเหตุการณ์สู้รบระหว่าง กองทัพเวียงจันทน์กับกองทัพกรุงเทพฯ ตามลำดับ ซึ่งเมืองภูเวียงในครั้งกระนั้นได้กลายเป็นเมืองหน้าด่านของกองทัพเวียงจันทน์เนื่องจากมีชัยภูมิที่เหมาะ เพราะมีภูเขาล้อมรอบ และในการสู้รบกันนั้นปรากฏว่ามีอยู่ครั้งหนึ่ง พระยานรินทร์ แม่ทัพเอกฝ่ายลาว ซึ่งเจ้าอนุวงศ์แห่งนครเวียงจันทน์ ได้แต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองหนองบัวลำภู โดยให้ตั้งค่ายทัพไว้ต่อสู้กับกองทัพกรุงเทพฯ ในสมัยรัชกาลที่ ๓ เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๖๙ กองทัพกรุงเทพฯ เข้าตีค่ายหนองบัวลำภู ณ วันอังคาร เดือน ๖ ขึ้น ๖ ค่ำ พระยานรินทร์สู้รบทัพไทยเป็นสามารถ ทัพไทยตีค่ายหนองบัวลำภูแตก ณ วันศุกร์ เดือน ๖ ขึ้น ๙ ค่ำ (๔ พ.ค.๒๓๖๙) จับได้พระยานรินทร์ส่งตัวมาทัพหลวง รับสั่งให้ถามพระยานรินทร์ว่า จะเลี้ยงจะอยู่หรือไม่อยู่ พระยานรินทร์ไม่สวามิภักดิ์ ก็โปรดให้เอาช้างแทงเสีย (จากหนังสือพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์) แต่ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวของพระยานรินทร์ในครั้งนั้น จึงได้มีการสร้างศาลเพียงตาขึ้น เพื่อให้ผู้คนเคารพกราบไหว้มาจนถึงปัจจุบัน โดยเป็นที่รู้จักกันดีของชาวภูเวียงว่า "ศาลเจ้าจอมปากช่อง"
.
สมัยปัจจุบัน
เริ่มเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๕ เมืองภูเวียง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอำเภอ โดยมีพระประสิทธิ์สรรพากร (สีหะไกร) เป็นนายอำเภอคนแรก ขณะนั้นอำเภอภูเวียง ตั้งอยู่ในหุบเขาภูเวียง ต่อมาปี พ.ศ. ๒๔๙๑ ทางราชการเห็นว่าที่ตั้งของอำเภออยู่ในวงล้อมของภูเขา มีเส้นทางเข้า - ออก ได้ทางเดียว ประชาชนมาติดต่อราชการได้ยากลำบาก จึงได้ย้ายมาตั้งอยู่ที่บ้านนาก้านเหลือง ตำบลบ้านเรือ (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นตำบลภูเวียง)
ปี พ.ศ. ๒๕๔๙
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ได้มีพระราชกฤษีกาแบ่งเขตการปกครองจัดตั้ง กิ่ง อ.ภูเวียง (ปัจจุบันเป็น อ.เวียงเก่า) โดยแบ่งเขตการปกครองออกจาก อ.ภูเวียง จำนวน ๓ ตำบล ได้แก่ ต.เมืองเก่าพัฒนา ต.ในเมือง และ ต.เขาน้อย ซึ่งมีหมู่บ้านรวม ๓๖ หมู่บ้าน พื้นที่ ๒๘๖ ตร.กม. ทำให้พื้นที่ของอำเภอภูเวียงคงเหลือ ๑๑ ตำบล ๑๑๔ หมู่บ้าน พื้นที่ประมาณ ๗๑๗ ตร.กม.
พื้นที่ตำบลรับผิดชอบ จำนวน ๑๑ ตำบล ได้แก่ ตำบลภูเวียง ตำบลบ้านเรือ ตำบลหนองกุงธนสาร ตำบลกุดขอนแก่น ตำบลนาชุมแสง ตำบลนาหว้า ตำบลสงเปือย ตำบลหนองกุงเซิน ตำบลทุ่งชมพู ตำบลหว้าทอง และตำบลดินดำ
อาณาเขตติดต่อ
ทิศเหนือ จดเขต อำเภอหนองนาคำ และเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
ทิศใต้ จดเขต อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น
ทิศตะวันออก จดเขต อำเภอหนองเรือ , อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
ทิศตะวันตก จดเขต อำเภอชุมแพ , อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น
.
.
คำขวัญอำเภอภูเวียง 
" ภูเวียงเมืองเก่า ศาลเจ้าจอมปากช่อง พัทยาสองโสภิณ เกาะกุดหินหาดสวรรค์ ศรัทธามั่นหลวงปู่ธีร์ ชมวิถีถิ่นควายไทย "
.